วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

เกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์

http://www.oknation.net/blog/phatchara/2009/01/09/entry-1นศุกร์ ที่ 9 มกราคม 2552
Posted by อิศรา , ผู้อ่าน : 2835 , 21:01:25 น.  
หมวด : ทั่วไป

พิมพ์หน้านี้
โหวต 0 คน

อินเตอร์ เน็ตขัดข้องทำไงดี




หลายคนคงจะหงุดหงิดไม่ ใช่น้อยเลย ถ้าเวลาที่เราต้องการใช้อินเตอร์เน็ต แต่ดันใช้ขึ้นมาไม่ได้ซะอย่างงั้น ทั้งๆที่ใช้อยู่ทุกวัน เกิดขัดข้อง เปิดเว็บไซต์ได้บ้างไม่ได้บ้าง รับส่ง E-mail หรือไม่ว่าจะเป็นอินเตอรืเน็ตหลุดบ่อยจนเกิดอาการเซ็งมากๆ หรือสำหรับคอเกมส์ออนไลน์ใช้งานไม่ได้ วันนี้เรามี 'วิธีแก้ไขเบื้องต้น' มาบอก จะได้แก้ไขไม่ต้องทนเสียอารมณ์อีกต่อไป



 
ความรัก..ก่อนอื่นเพื่อนๆ ต้องเช็คดูก่อนนะคะว่า Router ของเรานั้นวางอยู่ในที่ ที่มีการระบายอากาศได้ดีหรือเปล่า เพราะ Router  จะเกิดความร้อนสูงเมื่ออยู่ในที่ๆ อากาศระบายไม่ดีและที่สำคัญ อย่าเอาสิ่งของ หรือหนังสือ ไปว่างอยู่บน Router นะคะ
ความรัก...สังเกตดูว่า Router ร้อนหรือป่าว
ก็ เพราะ เมื่อเราใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเวลานานๆติดต่อกัน จะทำให้เกิดความร้อน ให้คุณลองปิด Router นะคะ ปิดทิ้งไว้ ประมาณ 5-10 นาที เนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้นจะขัดขวางประสิทธิภาพการทำงานของ Router

ความรัก...ขั้วหลวมหรือเปล่า ให้ตรวจสอบสายภาย ใน/ ตลับต่อสาย/จุดต่อพ่วงต่างๆว่ามีสภาพชำรุด ขึ้นสนิม ขาด ไม่พร้อมใช้งาน หรืออาจจะต่อไม่แน่น แล้วก็ตรวจสอบกล่องกันฟ้าที่อยู่ตรงหน้าบ้านด้วยนะคะ
ความรัก...
Virus ป่วน ไวรัสตัวร้ายอาจจะทำให้ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหลุดบ่อยนะคะ ก็เป็นเพราะ ไวรัสบางตัวมีการเขียน ขึ้นมาเพื่อขัดขวางการทำงานของคอมพิวเตอร์ ทำให้มี session ถูกยกเลิก
ความรัก ...ลอง Restert เครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เราเปิดทำงานอาจมีความผิดปกติ
ความรักLAN CARD มีปัญหา  หากว่ามีปัญหา ก็จะพบเครื่องหมายตกใจสีเหลือง หรือเครื่องหมายกากบาทสีแดง ขึ้นอยู่หน้าชื่อ LAN CARD แสดงว่าเป็นปัญหาจากเรื่องของอุปกรณ์การ์ดแลน หรือสายแลน


นี้เป็นการแก้ไขเบื้องต้นนะคะ ถ้าลองทำแล้วยังไม่ไดีขึ้น ก็ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดูนะคะ จะได้ให้ช่างเขาแก้ไขอย่างถาวรไปเลย แต่จะเสียเวลาสักหน่อยนะคะ
...ทีมงานที่นี่ดอทคอม...



สมองแก่ แก้ได้ด้วยตัวเอง


  “สมอง” ก็เหมือนร่างกายที่ต้องการความแข็งแรง ดังนั้นจึงต้องออกกำลังกายสมองอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อม ในงานประชุมด้านเทคโนโลยีชีวภาพในภูมิภาคเอเชีย “ไบโอ เอเชีย 2008”ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้ไขข้อข้องใจนี้โดย ดร.แก รี่ สมอล อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์พฤติกรรมและจิตเวช และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเกี่ยวกับอายุรศาสตร์และความจำ จากมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ สหรัฐอเมริกา ได้อธิบายว่า จากการวิจัยเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ พบว่าการรักษาโรคนี้ที่ดีที่สุดคือ การตรวจให้รู้ตั้งแต่ เนิ่นๆ และการป้องกัน 3 วิธีง่ายๆ คือ เริ่มจากตรวจสแกนสมองด้วยเครื่องเพ็ท เพื่อดูว่ามีการจับของสารบ่งชี้สมองเสื่อมชื่อ FDDNP มากเพียงใด การตรวจหายีนบ่งชี้อัลไซเมอร์ “อะ โปอี 4” และการตรวจด้วยการให้ทำแบบทดสอบสมอง

 ดร.แกรี่ยังบอกอีกว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรคสมองเสื่อมนี้มีอยู่ได้หลายแบบหลายชนิด โดยไม่จำเป็นต้องเป็นอัลไซเมอร์เสมอไป พูดง่ายๆคือ อัลไซเมอร์เป็นสมาชิกของโรคสมองเสื่อม แต่โรคสมองเสื่อมไม่จำเป็นต้องเป็นอัลไซเมอร์เสมอไป อาจเกิดจากหลอดเลือดตีบ โรคพันธุกรรมหรือแม้แต่จากยาบางชนิดก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญคือ การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดภาวะสมองเสื่อม โดยการรู้เท่าทันสาเหตุแห่งการเกิดเสียก่อนว่า เกิดจากอะไร ซึ่งสาเหตุหลักของสมองเสื่อมมี 4 ประการคือ อายุมากขึ้น มีประวัติครอบครัวญาติใกล้ชิดเป็นสมองเสื่อม เคยประสบอุบัติเหตุสมองกระทบกระเทือน และมียีนสมองเสื่อม “อะโปอี 4” อยู่ ส่วน เทคนิคในการป้องกันสมองเสื่อมนั้น ดร.แกรี่เปิดเผยว่า ใช้หลักเดียวกับเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ หรือ Anti Aging คือเน้นที่การปรับวิถีชีวิตก่อนโดยไม่พึ่งยา ยกเว้นว่า มีอาการสมองเสื่อมรุนแรงจริงๆ ซึ่งเทคนิคการป้องกันมีง่ายๆคือ รับประทานอาหารประเภทปลา ผักและผลไม้ โดยพบว่า คนญี่ปุ่นที่นิยมบริโภคปลาทำให้ มีสมองค่อนข้างดี ขณะที่คนอินเดียก็มีอัตราป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์จำนวน 1 ใน 100
เนื่องจากคนอินเดียนิยม บริโภคขมิ้นซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสมอง การออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองนอกจากนี้ต้องมีการฝึกสมองให้จำได้ดีขึ้น โดยใช้เทคนิคดูจับภาพ และเชื่อมโยง เช่น ถ้าต้องออกไปจับจ่ายสิ่งของ ให้นึกถึงสิ่งที่จะต้องเจอและเชื่อมโยงภาพทำให้ไม่ลืม สุดท้ายคือ อย่าเครียด เพราะความเครียดจะทำลายเนื้อสมองส่วนความจำ !!

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ



ข้าวกล้อง วิตามิน...เพียบ



  ข้าวกล้องคืออะไร
                   คือข้าวที่สีเอาเปลือก (แกลบ) ออกโดยที่ยังมีจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว (รำ) อยู่ ข้าวกล้องจะมีสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวนี้มีคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์มาก สำหรับข้าวขาวที่เรากินๆ กันอยู่นั้น เป็นข้าวที่เกิดจากการขัดสีหลายๆ ครั้ง จนเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าวหลุดออกไป จนเหลือแต่เนื้อในของข้าว  ข้าวกล้องบางคนเรียกกันติดปากว่า ข้าวซ้อมมือหรือข้าวแดง เนื่องจากในสมัยโบราณ ชาวบ้านใช้วิธีตำข้าวกินกันเอง จึงเรียกว่า ข้าวซ้อมมือ แต่ปัจจุบันเราใช้เครื่องจักรสีข้าวแทน จึงเรียกข้าวที่สีเอาเปลือกออกนี้ว่า ข้าวกล้อง  ข้าวกล้องมีโปรตีนประมาณ 7-12% (แล้วแต่พันธุ์ข้าว) นักค้นคว้าชื่อ โรสเดล ( Rosedale ) ได้วิเคราะห์ว่า การขัดสีข้าวกล้องจนมีสีขาว จะทำให้โปรตีนสูญหายไปประมาณ 30%
 
  ประโยชน์ มากมายของการกินข้าวกล้อง 
                  • ได้วิตามินบีรวมช่วยป้องกันและบรรเทาอาหารอ่อนเพลีย แขน ขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนังบางชนิด บำรุงสมองทำให้เจริญอาหาร 
                  • ได้วิตามินบี 1 ซึ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้ 
                  • ได้วิตามินบี 2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก 
                  • ได้ฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน 
                  • ได้แคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว 
                  • ได้ทองแดง สร้างเมล็ดโลหิต และเฮโมโกลบิน 
                  • ได้ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง 
                  • ได้โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ 
                  • ได้ไขมัน ให้พลังงานแก่ร่างกาย ไขมันในข้าวกล้องเป็นไขมันที่ดี ไม่มีโคเรสเตอรอล 
                  • ได้ไนอะซิน ช่วยระบบผิวหนังและเส้นประสาท และป้องกันโรคเพลลากรา (โรคที่เกิดจากการขาดไนอะซิน จะมีอาการท้องเสีย ประสาทไหว โรคผิวหนัง) 
                  • ได้คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานแก่ร่างกาย 
                  • ได้กากอาหาร ข้าวกล้องมีกากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้องไม่ผูก และช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกด้วย 
                  • วิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ในข้าวกล้องจะช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ 


ข้าวกล้องมีอะไรดีกว่าข้าวขาว

ธาตุเหล็ก มีมากเป็น 2 เท่าช่วยป้องกันโลหิตจาง
 
  

                 • ข้าวกล้องมีวิตามินบี 1 มากกว่าข้าวขาวประมาณ 4 เท่า ถ้ากินเป็นประจำ จะป้องกันโรคเหน็บชา 
                 • วิตามินบี 2 มีมากจะป้องกันโรคปากนกกระจอก 
                 • วิตามินบีรวม มีมากกว่าจะป้องกัน และบรรเทาอาการอ่อนเพลียและขาไม่มีแรง อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ ลิ้นแตกหรือมีแผล ริมฝีปากเจ็บหรือมีแผล โรคผิวหนังบางชนิด โรคปลายประสาทอักเสบ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาทบางชนิด 
                 • วิตามินบีรวม ยังบำรุงสมอง ทำให้เรียนเก่งขึ้นและเจริญอาหาร 
                 • ธาตุเหล็ก มีมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโลหิตจาง 
                 • แคลเซียม มีมากกว่า จะทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว 
                 • ไขมัน มีมากกว่าให้พลังงานแก่ร่างกาย 
                 • กากอาหาร มีมากกว่าจะช่วยป้องกันท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ 
                 • เกลือแร่และวิตามินต่างๆ ในข้าวกล้อง มีรวมกัน 20 กว่าชนิด มีหน้าที่ทำให้การทำงานของส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ 
                 • โปรตีน มีมากกว่าช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ 
                 • แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) มีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมจะสมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น 
                 • ประหยัดเงินทอง เพราะเจ็บป่วยน้อยกว่า ข้าวกล้องจะมีราคาถูกกว่า เพราะต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า 
                 • มีผลทำให้สุขภาพจิตและสติปัญญาดีขึ้น เพราะสุขภาพกายดีขึ้น 


ผลเสียของการกินข้าวขาว


โรคและอาการต่างๆ ต่อไปนี้ จะลดลงมากหรือป้องกันได้ ถ้ากิน ข้าวกล้อง เป็นประจำ และกินอาหารเพียงพอและถูกหลัก 


                • โรคเหน็บชา เพราะขาดวิตามิน-บี 1 ข้าวกล้องมีวิตามิน-บี 1 มากกว่าข้าวขาว 385% (พบมากในประเทศที่กินข้าวขาวเป็นอาหารหลัก) 
                • โรคปากนกกระจอก เพราะขาดวิตามิน-บี 2 ข้าวกล้องมีวิตามิน-บี 2 มากกว่าข้าวขาว 66% (ตามชนบทมีเด็กเป็นโรคปากนกกระจอก 60%) 
                • โรคโลหิตจาง เพราะขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากข้าวกล้องมีธาตุเหล็กมากกว่าข้าวขาว 2 เท่า (ประชากรไทยเป็นโรคโลหิตจาง 40%) 
                • โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (พบมากทางภาคเหนือและภาคอีสาน โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี) เกี่ยวเนื่องจากมาจากการขาดธาตุฟอสฟอรัส และอื่นๆ ซึ่งมีในข้าวกล้อง นอกจากนั้นฟอสฟอรัสยังช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟันอีกด้วย 
                • โรคท้องผูก เพราะมีกากอาหารน้อย ข้าวกล้องมีกากอาหารมากกว่า 133% (ข้าวกล้องช่วยป้องกันท้องผูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่) 
                • โรคทางระบบประสาทบางชนิด และโรคปลายประสาทอักเสบ เพราะขาดวิตามินบีรวม ซึ่งมีมากในข้าวกล้อง (วิตามินบีรวม ช่วยบำรุงสมอง ทำให้เรียนเก่งขึ้น และเจริญอาหาร) 
                • อารมณ์เสียง่ายกว่า หงุดหงิดเพราะชาดวิตามินบีรวม ซึ่งเป็นวิตามินที่เสริมสร้างระบบประสาทของร่างกาย และถ้าระบบประสาทของเราไม่ดี ทำให้เราควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีนัก 
                • เบื่ออาหาร เพราะขาดวิตามินบีรวม ซึ่งข้าวกล้องมีมากกว่าข้าวขาว 
                • โรคขาดโปรตีน ข้าวกล้องมีโปรตีน ร้อยละ 7-12 (เด็กไทยประมาณร้อยละ 40-60 เป็นโรคขาดโปรตีนและพลังงาน) ข้าวกล้องมีโปรตีนมากกว่าข้าวขาว 20-30% 
                • โรคผิวหนังบางชนิด ขาดวิตามินบีบางตัว 
                • อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ ปวดเมื่อยตามตัวและขา เพราะขาดวิตามินบีรวม 
                • โรคชัก เนื่องจากขาดวิตามิน บี 6 ซึ่งมีมากในข้าวกล้อง 
                • ข้าวขาวมีแป้ง (คาร์โบไฮเดรต) พอๆ กับข้าวกล้อง แต่มีเกลือแร่และวิตามินต่างๆ น้อยกว่าข้าวกล้อง (ในข้าวกล้องจะมีวิตามินรวมกัน 20 กว่าชนิด) ที่ทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์ 

                จะเห็นได้ว่า ผลเสียของการกินข้าวขาวมีมาก เพราะการขัดสีส่วนที่มีคุณค่าต่อร่างกายออกไป หลายท่านอาจจะกินข้าวขาว เพราะไม่รู้ว่ายังมีข้าวที่มีคุณค่ามากอย่างข้าวกล้องอยู่ จนบางคนไม่เคยรู้จักข้าวกล้องด้วยซ้ำ  คนสมัยโบราณแต่ละบ้านจะตำข้าวกินเอง ซึ่งเรียกว่า ข้าวซ้อมมือ ซึ่งก็คือ ข้าวกล้อง คนสมัยก่อนจึงมีร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคอย่างที่คนสมัยนี้เป็นกันเท่าไร เช่น โรคเบาหวาน, หัวใจวาย, มะเร็ง ฯลฯ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็เพราะการกินไม่เป็น 

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"



ใช้ ไฟฟ้าลดเวลาบ่มไวน์


 
 ไวน์ใหม่รสไม่ อร่อย ไวน์ดีๆ ต้องรอถึง 20 ปีกว่าจะนำมาดื่มได้

ดร.ซิ นอันเจิ้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมี จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเซาท์ไชน่า ประเทศจีน ได้ย่นระยะเวลาการบ่มไวน์ด้วยการใช้ขั้วไฟฟ้าแรงสูง โดยการนำไวน์กาแบรเนตโซวิญอง อายุ 3 เดือน ผ่านเข้าไปที่ท่อซึ่งอยู่ระหว่างขั้วไฟฟ้าไทเทเนียม 2 ขั้ว
และเลี้ยงด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง เป็นเวลา 1 นาที 3 นาที และ 8 นาที
ผลที่ได้ปรากฏว่าไฟฟ้าแรงสูงกระตุ้นให้ไวน์เก่าเร็วขึ้น มีรสขม-มีกรดน้อยลง สีใส-อยู่ตัวมากขึ้น

แต่ยังคง รสชาติของผลไม้และกลิ่นหอมไว้ โดยการเลี้ยงไวน์ด้วยกระแสไฟฟ้านาน 3 นาทีทำให้ไวน์มีรสชาติดีที่สุด แต่การเลี้ยงด้วยไฟฟ้าที่นานเกินไปทำให้ไวน์ไม่อร่อยได้ ศ.เฮิร์ฟ อเล็กซานเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์จากฝรั่งเศส กล่าวว่า
"การใช้กระแสไฟฟ้าช่วยย่นเวลาการบ่มไวน์ ทั้งยังทำให้รสชาติของไวน์ดีขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วไวน์ต้องบ่มอย่างน้อย 6 เดือนถึงจะดื่มได้ และบางตัวต้องใช้เวลาหลายสิบปี"

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด



ไม่พบผลิตภัณฑ์ล้างพิษ มีหลักฐานมาสนับสนุนว่า ใช้แล้วได้ผล


 
                 นัก วิทยาศาสตร์เมืองอังกฤษ เปิดเผยว่า ยังไม่เคยพบหลักฐานว่าผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างอย่างกว้างขวางว่า ช่วยล้างพิษออกจากร่างกาย ได้ผลแต่อย่างใด

               องค์การ กุศลที่มีชื่อว่าสัมผัสแห่งวิทยาศาสตร์แจ้งว่า จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ประเภทนั้น 15 ชนิดด้วยกัน ตั้งแต่น้ำขวดไปจนถึงครีมล้างหน้า พบว่าของที่อ้างว่าสามารถขจัดพิษได้ ล้วนแต่ไม่มีความหมายใดๆ ทิ้งสิ้น ในขณะที่หน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมการโฆษณา ก็ยอมรับว่า คอยเฝ้าดูอยู่เช่นกัน หากแต่ได้พิจารณาเป็นรายๆไป


               นักวิจัยสมาชิกของเครือข่ายเสียงของหนุ่มสาววิทยาศาสตร์ ได้เปิดการรณรงค์เรียกร้องให้มีการตรวจสอบ บรรดาผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาอวดอ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างน่าสงสัย ด้วยถ้อยคำที่มีน้ำหนักทางวิทยาศาสตร์ แต่แท้จริงแล้วไม่ค่อยมีความหมายอะไรเลย


               นักวิจัย รายหนึ่งได้ตรวจสอบครีมล้างหน้า ซึ่งอ้างว่าสามารถขจัดสารพิษออกจากผิวหนัง กลับปรากฏว่าสารพิษนั้น เป็นเพียงฝุ่นละออง เครื่องสำอางและน้ำมันผิวหนัง ซึ่งครีมล้างหน้าทุกชนิดก็ทำหน้าที่ล้างออกอยู่แล้ว


               แม้แต่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยาแห่งหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าถ่ายพิษจากตัวได้ ภายใน 5 วัน ก็ยังโดนวิจารณ์ว่า ไม่มี หลักฐานสนับสนุนเช่นกัน

สมดุล

ฟิสิกฟ์

สมดุล

สมดุลกล

สภาพ สมดุล (Equilibrium) คือ สมดุลที่เกิดขึ้นในขณะที่

วัตถุอยู่ในสภาพ นิ่ง หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว


สมดุลสัมบูรณ์
absolute equilibrium

สภาวะที่วัตถุที่อยู่ทั้งในสมดุลต่อการเลื่อนที่ และสมดุลต่อการหมุน

สมดุล ของแรง 3 แรงเมื่อมีแรง 3 กระทำต่อวัตถุ วัตถุจะสมดุลได้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขคือ
1. แรงทั้งสามต้องอยู่ในระนาบเดียวกัน
2. แรงลัพธ์ = 0
3. แนวแรงทั้งสามต้องพบกันที่จุดเดียวกัน

โมเมนต์ ของแรงคู่ควบ
moment of couple

โมเมนต์ของแรงคู่ควบใด ๆ มีขนาดเท่ากับผลคูณของแรงใดแรงหนึ่งกับระยะทางตั้งฉากระหว่างแนวแรงทั้งสอง ซึ่งทิศการหมุนขึ้นอยู่กับทิศของแรงคู่ควบนั้น


เสถียรภาพของ สมดุล(Stability of balance)

เสถียรภาพของสมดุล เสถียรภาพของสมดุลสามารถแบ่งได้ดังนี้
1.สมดุลเสถียร คือสภาพสมดุลของวัตถุซึ่งมีลักษณะที่วัตถุสามารถกลับสู่สภาพสมดุลที่ตำแหน่ง เดิมได้ โดยเมื่อแรงกระทำกับวัตถุที่อยู่ในสมดุลเสถียร จุดศูนย์ถ่วงจะอยู่สูงกว่าระดับเดิม แต่เมื่อเอาแรงออก วัตถุจะกลับสภาพเดิม
2. สมดุลสะเทิน คือสภาพสมดุลของวัตถุที่อยู่ในลักษณะสามารถคงสภาพสมดุลอยู่ได้ โดยมีตำแหน่งสมดุลที่เปลี่ยนไป
3. สมดุลไม่เสถียร คือ สภาพสมดุลของวัตถุที่อยู่ในลักษณะที่ไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมได้

เกล็ด ความรู้

เคล็บลับในการเล่นรถบังคับตอนที่ 1

เคล็บลับในการเล่นรถบังคับตอนที่ 1

เหล่านักเล่นรถบังคับมักจะต้อง การมีประสบการ์ณที่พิเศษสุดๆกับรถบังคับคันใหม่ของพวกเขา
ดังนั้นพวกเขา จึงมักจะมองหาเคล็บลับสุดยอดใหม่ๆเสมอ

บางคนมองข้ามคู่มือเลย

เหตุ เพียงเพราะว่าการเล่นรถบังคับล่อใจให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปก็ตาม

แต่ว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่พวกเขาควรจะทำ

เพื่อป้องกันความเสีย หายของการซื้อพาหนะที่มีประสิทธิภาพสูงโดยที่ไม่ได้รับการแนะนำที่ดี

ถ้า ใครสักคนคิดจะลงทุนเกี่ยวกับNitro Rc Car ล่ะก็นี่เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด

โดยการอ่านข้อมูลต่อไปนี้

------------------------------------------------------

การ เตรียมตัวและการลงสี.ถ้าRC Car หรือ Truck ต้องการที่จะเพิ่มสีสันนั้นตัวถังเป็นจุดที่น่าจะเพิ่มสีสันให้

ดัง นั้นการเตรียมตัวและการลงสีเป็นอะไรที่ต้องการความละเอียดอ่อนมาก

ใน เบื้องต้นเครื่องยนต์จะต้องเข้ากันได้ดีกับตัวถังเพื่อที่จะได้ระบายความ ร้อนให้แก่เครื่องยนต์ได้อย่างดี

มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องให้ บอดี้นั้นไม่เปื้อนน้ำมันหรือสกปรก ถ้าหากบอดี้ยังคงเก็บรักษาไว้ได้ดี ดังนั้นการเตรียมพร้อมจะง่ายขึ้น

หลังจากนั้นก็พร้อมที่จะลงสี ซึ่งสีที่คุณจะใช้จะต้องเป็นอะไรที่เป็นเอกลักษณ์หรือเป็นสิ่งเดียวที่ถูก เลือกขึ้นมา

ตัวถังจะทำหน้าที่คล้ายกับเกราะที่จะป้องกันเครื่อง ยนและเกียร์ราคาแพงของคุณระหว่างใช้


การประกอบยางรถที่ล้อก็เป็น สิ่งที่สำคัญ รถบังคับหลายๆคันต้องการยางรถที่กระกอบเข้ากับล้อรถได้อย่างดี

เรื่อง นี้เป็นอะไรที่บางคนมองข้ามะข้ามมันไปแต่ข้อแนะนำในเรืองนี้สำคัญมากตรงนี้ ว่าก่อนจะประกอบเข้าไป

จะต้องทำให้ยางรถและล้อรถสะอาดเรียบร้อยก่อน มันจะประกอบได้ยากขึ้นถ้าหากว่าล้อรถและยางรถเกิดความสกปรกขึ้นมา

ขั้น ตอนง่ายๆนี้ทำเพื่อให้แน่ใจว่าพลังงานทั้งหมดจะถูกส่งผ่านไปที่พื้นแทนที่ การเสียดสีระหว่างล้อยางและล้อรถ

ล้อยางควรจะติดกาวเข้ากับล้อรถด้วย Cyanoacrylate(น้ำ ยาล๊อคเกลียว)หรือ CA

กาวตราช้างก็เป็นCAเช่นกันแต่ว่าไม่แนะนำให้ใช้ประเภท นี้

กาวที่ใช้ได้ดีและหาง่ายจะพบตามท้องถิ่นหรือร้านขายของเกี่ยวกับ งานศิลป์


อุปกรณ์สำหรับการซ่อมบำรุงรถบังคับ วิทยุ


ชุด อุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการซ่อมรถบังคับวิทยุประกอบด้วย
-Tool Box
-Assortment of small, precision screwdrivers
-Standard and metric precision nut drivers
-Assortment of hex wrenches (including metric)
-Assortment of flat-head and Philips-head screwdrivers
-Needlenose pliers

อุปกรณ์ เหล่านี้จะช่วยในการซ่อมแซมอย่างง่ายๆและการปรับแต่งรถ ซึ่งทางผู้ผลิตรถบังคับวิทยุจะมีชุดเครื่องมือต่างๆแถมมา
ให้กับรถสำเร็จ รูปอยู่แล้ว
ยังมีอุปกรณ์หลายอย่างเช่น
-Car stand
-Fuel filler bottle
-Utility knife
-Rotary tool
-Soldering kit
-Glue gun
-Cordless screwdriver
-Peak charger
-Digital multimeter
-Temperature gauge
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการซ่อมแซมให้รถบังคับวิทยุดียิ่งขึ้นตาม แต่ที่เจ้าของรถต้องการที่จะเลือกใช้

อุปกรณ์หรืออะไหล่ต่างๆที่จำ เป็นต้องมีในกล่องเครื่องมือขึ้นอยู่กับชนิดของรถที่เจ้าของรถใช้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว
จะนิยมใส่ tire glue หรือแบตเตอรี่สำรองลงไปในกล่องเครื่องมือด้วย
อุปกรณ์และอะไหล่ต่างๆที่ นิยมใส่เพิ่มลงไปในกล่องเครื่องมือได้แก่
-Tire glue
-Shock oil
-Air filter oil
-After-run oil
-ชุดแบ็ตเตอรี่สำรอง
-Variety of crystal sets
-glow plugs สำรอง
-เชื้อเพลิงสำรอง
-Balloons
-fuel tubing สำรอง
-Plastic tie straps (zip ties)
-cotter pins สำรอง

การ ใช้ tire glue จะช่วยรถเกาะติดถนนได้ดีขึ้นและยังช่วยในการหักโค้ง หรือหยุดอย่างรวดเร็ว ได้ดีอีกด้วย
การซ่อมบำรุงรถหลังการแข่งจำเป็นที่ จะต้องใช้น้ำมันหลายชนิดในการซ่อมบำรุงเช่น shock oil ,air filter oil และ after run oil


แบตเตอรี่และที่ชาร์ต


หากเทียบกับเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแล้ว สำหรับเครื่องยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ก็เปลี่ยนเสมือนถังน้ำมันนั้นเอง เมื่อมันหมดเราก็ต้องเติมเช่นเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากเชื้อเพลิงเป็นกระแสไฟฟ้าโดยให้ที่ชาร์ตแบตเตอรี่เป็นตัว อัดไฟเข้าไปนั้นเอง แบตเตอรี่มีประจุไฟฟ้าให้เลือกต่างกัน วัดในหน่วย มิลลิแอมแปร์ชั่วโมง หมายความว่า แบตเตอรี่แบบ 2000 จะสามารถกักเก็บปพลังงานได้ 2000 มิลลิแอมแปร์ ซึ่งจะช่วยให้รถสามารถวิ่งได้นานกว่าพวก 1500 มิลลิแอมแปร์ สำหรับรถที่ใช้เชื้อเพลิง หากน้ำมันลดลงก็ไม่ได้หมายความว่าความเร็วของรถจะตกลงตามเช่นเดียวกับ เครื่องยนต์ไฟฟ้าการที่ประจุไฟฟ้า (capacity) ลดลงก็ไม่ได้หมายความว่ารถจะวิ่งช้าลงเช่นกัน



การควบคุมความเร็วเบื้องต้น



รถบังคับแบบไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับตัวควบคุมแบบ mechanical หลักการทำงานของมันก็ง่ายๆเพียงแค่ให้ servo แต่ละตัวซึ่งจะส่งแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า (ปกติแล้วจะใช้ 3 ตัว) ทำให้รถวิ่งไปด้านหน้า ในลักษณะเดียวกันหากต้องการให้รถถอยหลังตัว servo นี้ก็จะส่งแรงในทางกลับกัน เครื่องแบบ mechanical ถือว่าทำงานค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคาของมัน เพราะมันมีราคาถูกมากรวมทั้งยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆครบครัน ช่วยให้ผู้ที่เริ่มหัดเล่นรถ RC Car สามารถใช้งานได้ง่ายและยังสามารถเรียนรู้ที่จะปรับแต่งรถได้อย่างไม่ยากเย็น นักอีกด้วย

เมื่อคุณเรียนรู้การเล่นรถ หรือทำงานกับมันไปสักระยะ คนส่วนใหญ่จะปรับแต่งตัว electronic speed control (ESC) ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ทำได้เองไม่ยากเพียงแค่ใส่ electronic switching device ลงไปแทนที่ส่วนของ mechanical unit และตัว servo เพิ่มเติม ซึ่งเมื่อใส่ตัว ESC เข้าไปแล้ว คุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างเลยทีเดียว เนื่องจาก ESC จะไปช่วยให้ในส่วนของตัวควบคุมการไหลของกระแสไฟมีความแม่นยำขึ้นมาก ไม่จำเป็นต้องมานั่งบำรุงรักษา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และที่สำคัญด้วยการที่ ESC เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆดังนั้นจึงไม่ไปเพิ่มน้ำหนัก หรือกินพื้นที่ของตัวรถอีกด้วย ซึ่งตัว ESC นี่ก็มีมากมายหลายแบบให้เลือก หลายราคาให้เลือกทั้งแบบที่ใช้สำหรับรถแข่งโดยเฉพาะซึ่งก็จะมีราคาแพงไปจน ถึงแบบธรรมดาราคาประหยัด ซึ่งในการเลือกใช้ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ตัวแพงหรือถูกก็ตามแต่ก็อย่าลืมว่าตัว ESC ที่เราเลือกนั้นจะต้องเข้ากับตัวควบคุมความเร็วและจุดประสงค์ในการใช้ ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บล็อกคือ

เมื่อกล่าวถึง Blog หลายๆคน คงพูดทับศัพท์กันไป ว่า "บล็อก" ความหมายคืออะไร? กล่าวสั้นๆ ก็คือเว็บไซต์ หรือเว็บเพจ ซึ่งก็เป็นคำอธิบายกว้างๆ แต่มีผู้ให้นิยามศัพท์คำว่าBlog นี้ต่างๆ กันไป อาทิเช่น
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้คำนิยามคำว่า "บล็อก" ไว้ดังนี้
บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บ ล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่ กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
เว็บค้นหาบล็อกเทคโนราที ได้อ้างไว้ว่าปัจจุบันในอินเทอร์เน็ต มีบล็อกมากกว่า 112 ล้านบล็อกทั่วโลก
web blog คืออะไร หลายคนก็ได้ให้ความหมายสั้นๆว่าเป็นการบันทึกบทความ ของตนเอง (Personal Journal) โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ
บล็อก คือ สื่อใหม่ (New Media) เป็นปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารในอดีตอย่างสิ้นเชิง คนเขียนบล็อก สามารถทำหน้าที่เป็นสื่อด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสื่อสารมวลชน เขาสามารถสื่อสารกันเองในกลุ่มเล็กๆ หรือกลุ่มใหญ่ก็ได้ ถ้าเรื่องไหน เป็นที่ถูกใจ ของชาวบล็อก ชาวเน็ต คนๆ นั้น อาจจะดังได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อหลักช่วยเลย
จากที่ยกตัวอย่างความหมายของคำว่า "บล็อก" มาพอสังเขปจาก หลากหลายแนวคิดแล้วนั้น ในส่วนตัวแล้วเห็นก็เห็นด้วยกับคำนิยาม หรือความหมายของBlog ทั้งหมด แต่โดยส่วนตัวนั้นอาจจะเพิ่มเติมในส่วนของบล็อก นั้นเป็นเสมือนเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่มีระบบจัดการต่างๆ ได้มากมาย เหมาะสมกับผู้ที่ไม่สามารถพัฒนาเว็บไซต์ได้เอง และ บล็อก ก็ไม่จำกัดความสามารถในการพัฒนาต่อไป แบบไม่มีสิ้นสุด ซึ่งมีทั้งแบบฟรี แบบเสียค่าใช้จ่าย หรือแบบเขียนบล็อก เองหรือ สร้างmuli blog หรืออื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งจากนิยามความหมายของคำว่า บล๊อกคืออะไรนั้นคงไม่จำกัดเฉพาะแนวคิดใด แนวคิดถึง ซึ่งก็ยังมีนิยามต่างๆ ในแต่ละมุมของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป
ผู้เขียน ผู้เรียบเรียบ

เกร็ดความรู้ของตะกร้อ

ตะกร้อ

ตะกร้อเป็นกีฬาที่คนไทยเรารู้จักกันดี โดยกีฬาประเภทนี้มีการเล่นกัน
อย่าง แพร่หลาย ซึ่งที่มาของตะกร้อยังไม่ทราบแน่ชัด และคำที่เรียกใช้
ก็มีความ แตกต่างกันออกไป เช่นที่พม่า เรียกว่าตะกร้อว่า ชินลอง หรือ
ชินลง แปลว่าฟุตบอลทำด้วยหวาย หรือตะกร้ากลมๆ ส่วนมาเลเซีย
เรียกตะกร้อว่า Sepak Rega คำว่า Rega แปลว่าตะกร้า ส่วนทาง
ฟิลิปปินส์เรียกว่า Sipak
ใน ประเทศไทยคำว่าตะกร้อ ได้ความว่า ของเล่นชนิดหนึ่ง สานด้วย
หวายสำหรับ เตะเล่น บางอย่างทำด้วยหนังปักพู่ขนไก่ ซึ่งหนังสือเกี่ยว
กับการเล่นของ ชาวตะวันออกได้กล่าวว่าชาวจีนกวางตุ้งได้เข้าไปอยู่
ในอเมริกาได้เตะ ตะกร้อขนไก่นี้เหมือนกัน และเรียกการเล่นชนิดนี้ว่า
เตกโก ซึ่งหมายถึงการเตะลูกขนไก่
การเตะลูกขนไก่นี้ในเกาหลีก็มีเล่นเหมือนกัน แต่ลูกตะกร้อจะใช้ดิน
หรือขี้เถ้าห่อด้วยผ้าสำลี เอาหางไก่ฟ้าปัก ในภาคใต้ของไทยก็มีเช่นกัน
เช่น จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี โดยจะใช้หนังวัวหรือหนังควาย
กว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว พับให้ปลายต่อกัน แล้วตัดหนังขนาด
พอที่จะผูกขนไก่ 10-20 ขน แล้วจึงเจาะหนังแผ่นใหญ่ที่พับปลายต่อกัน
นั้น เอาหนังแผ่นเล็กที่ผูกขนไก่ร้อยเข้าไป หนังแผ่นเล็กจะทำหน้าที่ 2
อย่าง คือยึดแผ่นหนังให้ต่อกันและยึดขนไก่ไว้
ตะกร้อมลายูแต่ก่อนนั้นทำด้วย หนังวัวหรือหนังควาย ต่อมาจึงใช้หวาย
ตะคร้า ซึ่งเบากว่าหวายที่ใช้ทำตะกร้อแบบของไทย
ตะกร้อที่ทำด้วยหวาย ที่เล่นกันอยู่ในปัจจุบัน ก็มี พม่า ไทย มาเลเซีย
ฟิลิปปินส์ และที่ไดยัด บอร์เนียว ก็มีตะกร้อหวายเล่นเหมือนกัน จึงเป็น
การยากที่จะ บอกได้ว่าใครเป็นผู้เริ่มต้นคิดเล่นตะกร้อ..........

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กติกาการเล่นตะกร้อ

http://www.takraw.or.th/th/index.php?action=lawshead.php

    หน้าแรก 

    คณะกรรมการบริหารสมาคม   

    ประวัติสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย   

    กฎ / กติกาการแข่งขันกีฬาตะกร้อ   

    calendar 2010   

    ประวัติกีฬาตะกร้อ   

    King's Cup   

    Prince Cup   

    Princess_Cup   

    LINK TAKRAW   







เทปการแข่งขัน
VDO การฝึกตะกร้อ


  รูปสวยจากคนรักตะกร้อ

POST
คลิกดูรูป





ลิงค์ เวบไซส์เอเชี่ยเกมส์อยู่หน้าเวบครับ ผมก็ค่อยเช็คเวลาจากเวบหลักเอเชี่ยนเกมส์ เพราะทางสถานีในไทยก็ไม่ไดแจ้งเวลาในการถ่ายทอดขึ้นอยู่ว่าขณะนั้นกีฬาชนิด ไหนกำลังจะชิง หรือน่าสนใจ

Online 29


ตู้จดหมายสมาคม


 
  




กติกาการแข่งขันกีฬาตะกร้อ



วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บทเรียนaccess

http://www.comnetsite.com/access-tech.php





  >> บทความสอน Microsoft Access

  1. การกำหนดเงือนไขในการค้นหาข้อมูล
2. เกี่ยวกับการออกแบบฐานข้อมูล
3. การจัดรูปแบบแผ่นข้อมูล
4. การใช้คำสั่ง CHOOSE เลือกได้มากกว่า 2 (Program Flow)
5. การใช้คำสั่ง DAvg ไว้หาค่าเฉลี่ยแบบมีเงื่อนไข
6. การใช้คำสั่ง DCount สำหรับหาจำนวน
7. การใช้คำสั่ง DLookup เข้ามามีส่วนร่วมกับ DMax และ DMin
8. การใช้คำสั่ง DMax และ DMin
9. การใช้คำสั่ง DSum สำหรับหาผลรวมข้อมูลโดยกำหนดเงื่อนไข
10. การใช้คำสั่ง IIF กับคิวรี
11. การใช้คำสั่ง IIF ใน Access โดยแสดงในรูปแบบของฟอร์ม
12. การใช้คำสั่ง Nowและ Date
13. การใช้คำสั่ง SWITCH เลือกอย่างได้อีกอย่าง (Program Flow)
14. การใช้คำสั่งDLookUpสำหรับหาข้อมูล
15. การใช้เงื่อนไขใน Query
16. การใช้ตัวช่วยสร้างการค้นหาเพื่อสร้างข้อความในคอลัมน์
17. คุณสมบัติ DataType
18. การทำงานกับ Query
19. การแทรก Column ว่างใน Query
20. การบันทึก Query ( Save Query )
21. การป้อนข้อมูลลงใน Table
22. การเพิ่มข้อมูลลง Record
23. การลบ Record
24. การตัดสินใจเลือกประเภทของข้อมูล ใน Access
25. การสร้าง Crosstab Query Wizard
26. การสร้าง Form
27. การส ร้าง Query wizard ด้วยตัวช่วยสร้างแบบสอบถามอย่างง่าย ( Simple Query Wizard )
28. การสร้าง Table Wizard
29. การสร้างฐานข้อมูลใน MS Access
30. การสร้างแบบสอบถามโดยใช้ตัวช่วยสร้าง
31. ทำยังไงเมื่อคุณเปิดไฟล์ MDB ไม่ได้
32. Toolbar ของ Table Design
33. เกี่ยวกับการออกแบบฐานข้อมูล
34. ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
35. ประเภทของข้อมูล ใน Access
36. เปิดไฟล์ MDB ได้แล้วแต่ไม่สามารถใช้งานไฟล์ได้
37. รูปแบบความสัมพันธ์
38. การสร้างฐานข้อมูลด้วยตัวคุณเอง
39. การสร้างตารางด้วยAccess2002
40. สร้างตาราง : Table
41. สร้างตารางคะแนนการสอบ tblExamScore เพื่อใช้ในคำสั่ง DLookUp
42. ส่วนประกอบของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
43. ส่วนประกอบในฐานข้อมูล Access

บทเ้รียนexcel2007


เอกสารเป็นชนิด PDF  





http://e-learning.vec.go.th/elearning/elearning/teach_doc/excelDoc.htm
  บทที่1ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Excel
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโปรแกรมตารางงาน
ส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ปรับปรุงใหม่ของ Excel 2007
คุณลักษณะใหม่
บทที่2ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel 2007
การเรียกใช้โปรแกรม Excel 2007
ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Excel 2007
บทที่3หลักการพื้นฐานในการใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel
หลักการพื้นฐานและการใช้งานใน Excel 2007
การจัดการแผ่นงาน 
การตกแต่งตารางงานในแผ่นงาน
บทที่4การคำนวณโดยการใช้สูตร และแทรกฟังก์ชัน
การคำนวณโดยใช้การพิมพ์สูตรทางคณิตศาสตร์
การคำนวณโดยการใช้สูตรสำเร็จจากการแทรกฟังก์ชัน
การคำนวณและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง
บทที่5การจัดการฐานข้อมูลและเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่น
ลักษณะของฐานข้อมูล (Database)
การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในขณะป้อนข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
การเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่น
บทที่6การแทรกแผนภูมิ
การสร้างแผนภูมิ (Chart) อย่างง่าย
การใช้เครื่องมือแผนภูมิ
การสร้างแผนภูมิขั้นสูง
บรรณานุกรม