วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บล็อกคือ

เมื่อกล่าวถึง Blog หลายๆคน คงพูดทับศัพท์กันไป ว่า "บล็อก" ความหมายคืออะไร? กล่าวสั้นๆ ก็คือเว็บไซต์ หรือเว็บเพจ ซึ่งก็เป็นคำอธิบายกว้างๆ แต่มีผู้ให้นิยามศัพท์คำว่าBlog นี้ต่างๆ กันไป อาทิเช่น
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้คำนิยามคำว่า "บล็อก" ไว้ดังนี้
บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บ ล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่ กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์
เว็บค้นหาบล็อกเทคโนราที ได้อ้างไว้ว่าปัจจุบันในอินเทอร์เน็ต มีบล็อกมากกว่า 112 ล้านบล็อกทั่วโลก
web blog คืออะไร หลายคนก็ได้ให้ความหมายสั้นๆว่าเป็นการบันทึกบทความ ของตนเอง (Personal Journal) โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่างๆ
บล็อก คือ สื่อใหม่ (New Media) เป็นปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารในอดีตอย่างสิ้นเชิง คนเขียนบล็อก สามารถทำหน้าที่เป็นสื่อด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสื่อสารมวลชน เขาสามารถสื่อสารกันเองในกลุ่มเล็กๆ หรือกลุ่มใหญ่ก็ได้ ถ้าเรื่องไหน เป็นที่ถูกใจ ของชาวบล็อก ชาวเน็ต คนๆ นั้น อาจจะดังได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อหลักช่วยเลย
จากที่ยกตัวอย่างความหมายของคำว่า "บล็อก" มาพอสังเขปจาก หลากหลายแนวคิดแล้วนั้น ในส่วนตัวแล้วเห็นก็เห็นด้วยกับคำนิยาม หรือความหมายของBlog ทั้งหมด แต่โดยส่วนตัวนั้นอาจจะเพิ่มเติมในส่วนของบล็อก นั้นเป็นเสมือนเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่มีระบบจัดการต่างๆ ได้มากมาย เหมาะสมกับผู้ที่ไม่สามารถพัฒนาเว็บไซต์ได้เอง และ บล็อก ก็ไม่จำกัดความสามารถในการพัฒนาต่อไป แบบไม่มีสิ้นสุด ซึ่งมีทั้งแบบฟรี แบบเสียค่าใช้จ่าย หรือแบบเขียนบล็อก เองหรือ สร้างmuli blog หรืออื่นๆ อีกมากมาย
ซึ่งจากนิยามความหมายของคำว่า บล๊อกคืออะไรนั้นคงไม่จำกัดเฉพาะแนวคิดใด แนวคิดถึง ซึ่งก็ยังมีนิยามต่างๆ ในแต่ละมุมของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป
ผู้เขียน ผู้เรียบเรียบ

เกร็ดความรู้ของตะกร้อ

ตะกร้อ

ตะกร้อเป็นกีฬาที่คนไทยเรารู้จักกันดี โดยกีฬาประเภทนี้มีการเล่นกัน
อย่าง แพร่หลาย ซึ่งที่มาของตะกร้อยังไม่ทราบแน่ชัด และคำที่เรียกใช้
ก็มีความ แตกต่างกันออกไป เช่นที่พม่า เรียกว่าตะกร้อว่า ชินลอง หรือ
ชินลง แปลว่าฟุตบอลทำด้วยหวาย หรือตะกร้ากลมๆ ส่วนมาเลเซีย
เรียกตะกร้อว่า Sepak Rega คำว่า Rega แปลว่าตะกร้า ส่วนทาง
ฟิลิปปินส์เรียกว่า Sipak
ใน ประเทศไทยคำว่าตะกร้อ ได้ความว่า ของเล่นชนิดหนึ่ง สานด้วย
หวายสำหรับ เตะเล่น บางอย่างทำด้วยหนังปักพู่ขนไก่ ซึ่งหนังสือเกี่ยว
กับการเล่นของ ชาวตะวันออกได้กล่าวว่าชาวจีนกวางตุ้งได้เข้าไปอยู่
ในอเมริกาได้เตะ ตะกร้อขนไก่นี้เหมือนกัน และเรียกการเล่นชนิดนี้ว่า
เตกโก ซึ่งหมายถึงการเตะลูกขนไก่
การเตะลูกขนไก่นี้ในเกาหลีก็มีเล่นเหมือนกัน แต่ลูกตะกร้อจะใช้ดิน
หรือขี้เถ้าห่อด้วยผ้าสำลี เอาหางไก่ฟ้าปัก ในภาคใต้ของไทยก็มีเช่นกัน
เช่น จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี โดยจะใช้หนังวัวหรือหนังควาย
กว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว พับให้ปลายต่อกัน แล้วตัดหนังขนาด
พอที่จะผูกขนไก่ 10-20 ขน แล้วจึงเจาะหนังแผ่นใหญ่ที่พับปลายต่อกัน
นั้น เอาหนังแผ่นเล็กที่ผูกขนไก่ร้อยเข้าไป หนังแผ่นเล็กจะทำหน้าที่ 2
อย่าง คือยึดแผ่นหนังให้ต่อกันและยึดขนไก่ไว้
ตะกร้อมลายูแต่ก่อนนั้นทำด้วย หนังวัวหรือหนังควาย ต่อมาจึงใช้หวาย
ตะคร้า ซึ่งเบากว่าหวายที่ใช้ทำตะกร้อแบบของไทย
ตะกร้อที่ทำด้วยหวาย ที่เล่นกันอยู่ในปัจจุบัน ก็มี พม่า ไทย มาเลเซีย
ฟิลิปปินส์ และที่ไดยัด บอร์เนียว ก็มีตะกร้อหวายเล่นเหมือนกัน จึงเป็น
การยากที่จะ บอกได้ว่าใครเป็นผู้เริ่มต้นคิดเล่นตะกร้อ..........